การกุศล ของ ลาร์รีย์ เอลลิสัน

ในปี 2532 ข้อศอกของเอลลิสันแตกในอุบัติเหตุจักรยานยนต์ความเร็วสูงเมื่อเสาะหาศัลยแพทย์กระดูกที่เก่ง เขาได้พบ นพ. ไมเคิล แช็ปแมนที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เดวิสเพราะประทับใจในการดูแล เอลลิสันจึงได้บริจาคทรัพย์ 5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 162.5 ล้านบาท) สนับสนุนการสร้างศูนย์วิจัยกล้ามเนื้อ-กระดูกลอเรนซ์ เจ เอลลิสันต่อมาในปี 2541 ศูนย์คนไข้นอกลอเรนซ์ เจ เอลลิสัน (Lawrence J. Ellison Ambulatory Care) จึงได้เปิดที่เมืองแซคราเมนโต รัฐแคลิฟอร์เนีย[5]

เพื่อจะยุติการฟ้องศาลในข้อหาการซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลภายในเนื่องกับการขายหุ้นของออราเคิลมูลค่าเกือบ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ศาลได้อนุญาตให้เขาบริจาคทรัพย์มูลค่า 100 ล้านเหรียญ (ประมาณ 3,250 ล้านบาท) ให้กับมูลนิธิการกุศลของเขาเองโดยไม่ต้องยอมรับความผิดแต่ศาลแคลิฟอร์เนียไม่ยอมให้บริษัทจ่ายค่าใช้จ่ายในการสู้คดีกว่า 24 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งทนายของเขาได้อ้างว่า ถ้าเอลลิสันจ่ายเอง อาจจะมองได้ว่าเขายอมรับความผิดการบริจาคทรัพย์ให้กับมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดของเขา ทำให้เกิดข้อสงสัยถึงความเป็นกลางของศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยสองท่านผู้ได้ตรวจสอบคดีเพื่อบริษัท[6]

โดยตอบสนองต่อเหตุการณ์เหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน พ.ศ. 2544เอลลิสันได้เสนอบริจาคซอฟต์แวร์ให้แก่รัฐบาลกลางสหรัฐ เพื่อให้สร้างและดำเนินการฐานข้อมูลประชาชนและเพื่อให้เริ่มใช้บัตรประชาชน ซึ่งเป็นประเด็นที่ได้ก่อข้อโต้แย้งอย่างมาก[7]

รายการบริจาคทรัพย์เพื่อการกุศลของคนอเมริกันที่มั่งคั่งที่สุดโดยนิตยสารฟอบส์ปี 2547 แสดงว่า เอลลิสันได้บริจาคทรัพย์ $151,092,103 (ประมาณ 5,000 ล้านบาท) หรือประมาณ 1% ของทรัพย์สินส่วนตัว[8]

ในเดือนมิถุนายนปี 2549 เอลลิสันประกาศว่าเขาจะกลับคำพูดว่าจะให้ทรัพย์สินมูลค่า 115 ล้านเหรียญสหรัฐแก่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเพราะอธิการบดีลอเร็นซ์ ซัมเมอร์สได้ลาจากมหาวิทยาลัยไปผู้แถลงข่าวของบริษัทได้แถลงว่า "โครงการเป็นไอเดียของลาร์รีย์ ซัมเมอร์ส และเมื่อมันปรากฏว่า ลาร์รีย์ ซัมเมอร์สกำลังลาจากไป ลาร์รีย์ เอลลิสันจึงได้พิจารณาเรื่องนี้ใหม่ไอเดียนี้มาจากลาร์รีย์ เอลลิสันและลาร์รีย์ ซัมเมอร์สตั้งแต่ต้น"[9]

ในปี 2550 เอลลิสันสัญญาว่าจะให้ 500,000 เหรียญสหรัฐ (16.25 ล้านบาท) แก่ศูนย์ชุมชนแห่งหนึ่งในประเทศอิสราเอล หลังจากที่พบว่า อาคารไม่ได้เสริมป้องกันการโจมตีด้วยขีปนาวุธ[10]การบริจาคเพื่อการกุศลอื่น ๆ ของเขารวมทั้งทรัพย์มูลค่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ (325 ล้านบาท) แก่องค์กร Friends of the Israel Defense Forces ในปี 2557 ซึ่งเขากล่าวว่า "ในใจของผม มันไม่มีเกียรติอื่นเหนือกว่าการสนับสนุนคนกล้าหาญที่สุดในโลกพวกหนึ่ง...ชายและหญิงเหล่านี้ร่วมมือกันเพื่อจุดหมายอันไม่มีการล้มเลิก คือ เพื่อป้องกันอิสราเอลและพยายามอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข"[11]ในปี 2560 เอลลิสันบริจาคทรัพย์ 16.6 ล้านเหรียญสหรัฐ (539.5 ล้านบาท) แก่ Friends of the Israel Defense Forcesซึ่งจะช่วยสร้างอาคารสวัสดิภาพในค่ายทหารใหม่สำหรับทหารเกณฑ์ชายหญิง[12]

ในเดือนสิงหาคม 2553 มีรายงานว่า เอลลิสันเป็นหนึ่งในอภิมหาเศรษฐี 40 คนที่ได้ลงนามกับองค์กรสัญญาว่าจะให้[13][14]โดยเขาเขียนแถลงเหตุไว้ว่า "หลายปีก่อน ผมได้มอบทรัพย์สมบัติแทบทั้งหมดของผมให้แก่ทรัสต์ หมายจะให้สมบัติอย่างน้อย 95% เพื่อการกุศลผมได้ให้ทรัพย์มูลค่าเป็นร้อย ๆ ล้านเหรียญเพื่อการวิจัยทางการแพทย์และการศึกษา และผมจะให้เป็นพัน ๆ ล้านอีกต่อไปจนกระทั่งบัดนี้ ผมได้ให้อย่างเงียบ ๆ เพราะผมเชื่อมานานแล้วว่า การให้เพื่อการกุศลเป็นเรื่องส่วนบุคคลไม่ควรประกาศ"[15]

ในเดือนพฤษภาคม 2559 เอลลิสันได้บริจาค 200 ล้านเหรียญสหรัฐ (6,500 ล้านบาท) แก่มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย (USC) เพื่อตั้งศูนย์วิจัยมะเร็งชื่อว่า สถาบันลอเรนซ์ เจ เอลลิสันเพื่อการแพทย์เปลี่ยนชีวิตแห่ง USC

แหล่งที่มา

WikiPedia: ลาร์รีย์ เอลลิสัน http://www.boston.com/news/education/higher/articl... http://news.cnet.com/8301-13860_3-20012631-56.html http://www.imdb.com/name/nm0255213/ http://www.minyanville.com/investing/articles/ORCL... http://www.oracle.com/us/corporate/press/BoardofDi... http://www.oracle.com/us/corporate/press/executive... http://www1.salary.com/Lawrence-J-Ellison-Salary-B... http://www.sfgate.com/cgi-bin/article.cgi?f=/c/a/2... http://www.timesofisrael.com/hollywood-gala-raises... http://www.ynetnews.com/articles/0,7340,L-3435691,...